top of page

ชีวิตในอังกฤษ

 

เศรษฐกิจ

กรุงลอนดอน หนึ่งในเมืองหลวงหลักที่เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของโลก ท่าเรือลอนดอน หนึ่งในท่าเรือที่สร้างรายได้มหาศาลให้แก่สหราชอาณาจักร


เศรษฐกิจของอังกฤษเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งและมีพลวัตมากที่สุดในโลก โดยมีจีดีพีเฉลี่ยต่อหัวอยู่ที่ 28,100 ปอนด์หรือ 36,000 ดอลลาร์ กระทรวงการคลังมีหน้าที่รับผิดชอบในการพัฒนาและดำเนินการตามนโยบายการเงินสาธารณะและนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล มักถูกมองว่าเป็นเศรษฐกิจแบบตลาดผสม โดยได้นำหลักการตลาดเสรีมาใช้หลายอย่าง แต่ยังคงรักษาโครงสร้างพื้นฐานด้านสวัสดิการสังคมขั้นสูงไว้ได้ สกุลเงินอย่างเป็นทางการในอังกฤษคือปอนด์สเตอร์ลิงซึ่งมีรหัส ISO 4217 คือ GBP การเก็บภาษีในอังกฤษค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับส่วนอื่นๆ ของยุโรป โดยในปี 2014 อัตราภาษีส่วนบุคคลขั้นพื้นฐานอยู่ที่ 20% จากรายได้ที่ต้องเสียภาษีซึ่งสูงกว่าค่าเผื่อปลอดภาษีส่วนบุคคลถึง 31,865 ปอนด์ (ปกติ 10,000 ปอนด์)

เศรษฐกิจของอังกฤษเป็นส่วนที่ใหญ่ที่สุดของสหราชอาณาจักรซึ่งมี จีดีพี และ พีพีพี ต่อหัวสูงสุดเป็นอันดับที่ 18 ของโลก

 

อังกฤษเป็นผู้นำในภาคเคมี และเภสัชกรรม และในอุตสาหกรรมทางเทคนิคที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบินและอวกาศ อุตสาหกรรมอาวุธ และด้านการผลิตของอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ ลอนดอนซึ่งเป็นที่ตั้งของตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ตลาดหลักทรัพย์หลักของสหราชอาณาจักรและใหญ่ที่สุดในยุโรป เป็นศูนย์กลางทางการเงินของอังกฤษ โดยมีบริษัทที่ใหญ่ที่สุด 100 แห่งจาก 500 แห่งในยุโรปตั้งอยู่ที่นั่น

 

ลอนดอนเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และในปี 2014 นั้นใหญ่เป็นอันดับสองของโลก แมนเชสเตอร์เป็นภาคส่วนบริการทางการเงินและวิชาชีพที่ใหญ่ที่สุดนอกลอนดอน และเป็นเมืองหลวงของไพรเวทอิควิตี้ระดับกลางของยุโรป เช่นเดียวกับศูนย์กลางเทคโนโลยีที่กำลังเติบโตแห่งหนึ่งของยุโรป

ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ ก่อตั้งขึ้นในปี 1694 โดยนาย William Paterson นายธนาคารชาวสก็อต เป็นธนาคารกลางของสหราชอาณาจักร ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในฐานะนายธนาคารเอกชนของรัฐบาลอังกฤษ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2489 เป็นสถาบันของรัฐ ธนาคารมีการผูกขาดในเรื่องของธนบัตรในอังกฤษและเวลส์ แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในส่วนอื่น ๆ ของสหราชอาณาจักรก็ตาม รัฐบาลได้มอบความรับผิดชอบให้คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารในการบริหารนโยบายการเงินของประเทศและกำหนดอัตราดอกเบี้ย

ท่าเรือลอนดอน ยังถือเป็นศูนย์กลางการคมนาคมที่สร้างรายได้มหาศาลให้แก่สหราชอาณาจักร ตั้งอยู่บนฝั่งทางตอนใต้ของแม่น้ำเทมส์ในกรุงลอนดอน ครั้งหนึ่งเคยเป็นท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลกเป็นท่าเรือที่ใหญ่เป็นอันดับสองของสหราชอาณาจักรรองจาก Grimsby & Immingham ณ ปี 2555 ท่าเรือสามารถรองรับเรือสำราญ เรือข้ามฟากโรลออนโรลออน และสินค้าทุกประเภทที่โรงงานขนาดใหญ่ในภาคตะวันออก เช่นเดียวกับท่าเรือในยุโรปในประวัติศาสตร์ที่คล้ายคลึงกันหลายแห่งเช่น แอนต์เวิร์ป และ รอตเตอร์ดัม

แม้ว่าอังกฤษจะเป็นประเทศพัฒนาแล้วและมีเทคโนโลยีเป็นลำดับต้นๆ แต่การเกษตรยังถือเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ และมีประสิทธิภาพตามมาตรฐานยุโรป สองในสามของการผลิตเกิดจากการทำปศุสัตว์ ส่วนอีกส่วนหนึ่งมาจากการเพาะปลูก พืชผลหลักที่ปลูกคือข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ ข้าวโอ๊ต มันฝรั่ง หัวบีตน้ำตาล อังกฤษยังคงเป็นอุตสาหกรรมการประมงที่สำคัญแม้ว่าอุตสาหกรรมการประมงจะลดลงมาก มีชื่อเสียงในการจับปลาเฮอริ่ง และยังอุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ เช่น ถ่านหิน ปิโตรเลียม ก๊าซธรรมชาติ ดีบุก หินปูน แร่เหล็ก เกลือ ดินเหนียว ชอล์ก ยิปซั่ม ตะกั่ว และซิลิกา

การท่องเที่ยว

การท่องเที่ยวเป็นส่วนสำคัญในชีวิตทางเศรษฐกิจของประเทศอังกฤษ ในปี 2018 สหราชอาณาจักรมีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดเป็นลำดับที่ 10 ของโลก และอังกฤษมีมรดกโลกที่ได้รับการรับรองโดยยูเนสโก 17 แห่ง (รวมสหราชอาณาจักร) โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญมากมาย เช่น

1. The Palace of Westminster & Big Ben (พระราชวังเวสต์มินสเตอร์และบิกเบน)

พระราชวังเวสต์มินสเตอร์ เป็นสถานที่ประชุมของรัฐสภาแห่งสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในปัจจุบันในฐานะอาคารรัฐสภาเป็นพระราชวังที่เก่าแก่ที่สุดในลอนดอนซึ่งเป็นมรดกโลกและเป็นหนึ่งในอาคารที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในโลก

  ในส่วนของหอนาฬิกาบิกเบน (Big Ben) เป็นสถานที่สำคัญในลอนดอนที่มีชื่อเสียงก้องโลกและเป็นสมบัติล้ำค่าของประเทศอังกฤษ โดยแต่เดิมนั้นคำว่าบิ๊กเบนเป็นชื่อของระฆังในหอนาฬิกาที่ใหญ่ที่สุด ระฆังนี้เรียกอีกอย่างว่ามหาระฆังหรือเดอะเกรทเบลล์

 

2. London Eye (ลอนดอนอาย)

ลอนดอนอาย (London Eye) หรือ มิลเลเนียมวีล (Millennium Wheel) เป็นชิงช้าสวรรค์ที่สูงที่สุดในทวีปยุโรป มีความสูง 135 เมตร (443 ฟุต) ซึ่งในอดีตเคยเป็นชิงช้าสวรรค์ก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลก

 

3. Westminster Abbey (เวสต์มินเตอร์แอบบีย์)

เวสต์มินสเตอร์แอบบีย์ (Westminster Abbey) เป็นสถานที่ประกอบพิธีราชาภิเษกและที่ฝังพระบรมศพพระมหากษัตริย์อังกฤษและพระศพพระบรมวงศานุวงศ์ ระหว่าง ค.ศ. 1546-56 แอบบีย์ได้รับเลื่อนฐานะขึ้นเป็นอาสนวิหาร ต่อมาในรัชสมัยของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 แอบบีย์นี้ก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระอารามหลวง (Royal Peculiar)โดยส่วนที่มีชื่อเสียงที่สุดของ วิหารเวสต์มินสเตอร์ แอบบีย์ คือ มุมนักกวี (Poets' Corner)

4.Buckingham Palace (พระราชวังบักกิงแฮม)

เป็นพระราชวังที่เป็นที่ประทับเป็นทางการของราชวงศ์อังกฤษ ตั้งอยู่ที่กรุงลอนดอน ใช้สำหรับการเลี้ยงรับรองของรัฐและยังเป็นสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวสำคัญที่หนึ่งของกรุงลอนดอน และยังเป็นที่รวมพลังใจทั้งในการฉลองและในยามคับขันของชาวอังกฤษ

 

5.สโตนเฮนจ์

เป็นอนุสรณ์สถาน ยุคก่อนประวัติศาสตร์ กลางทุ่งราบกว้างใหญ่บนที่ราบซอลส์บรี (Salisbury Plain) ในบริเวณตอนใต้ของเกาะอังกฤษ ตัวอนุสรณ์สถานประกอบด้วยแท่งหินขนาดยักษ์ 112 ก้อน ตั้งเรียงกันเป็นวงกลมซ้อนกัน 3 วง แท่งหินบางอันตั้งขึ้น บางอันวางนอนลง และบางอันก็ถูกวางซ้อนกัน สโตนเฮนจ์และบริเวณโดยรอบได้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกในปี ค.ศ. 1986 และยังถูกจัดให้เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคกลางอีกด้วย

ประชากร


อังกฤษจึงเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดของสหราชอาณาจักร คิดเป็น 84% ของจำนวนทั้งหมด หลักฐานทางพันธุกรรมบางอย่างชี้ให้เห็นว่า 75–95% ของชาวอังกฤษสืบเชื้อสายมาจากบรรพบุรุษในยุคก่อนประวัติศาสตร์ซึ่งแต่เดิมมาจากคาบสมุทรไอบีเรีย และ 5% จากแองเกิลและแอกซอน และองค์ประกอบสำคัญของสแกนดิเนเวีย (ไวกิ้ง)

จากการสำรวจสำมะโนครัวของประเทศอังกฤษในเดือนเมษายน พ.ศ. 2544 ประเทศอังกฤษมีประชากร 58,789,194 คน โดยมากเป็นอันดับที่ 3 ของสหภาพยุโรป และอันดับ 21 ของโลก ในปีพ.ศ. 2547 สำนักงานสถิติแห่งชาติประมาณการจำนวนประชากรที่ 59,834,300 คน และ เพิ่มเป็น 60.2 ล้านคน ในอีกสองปีต่อมา โดยการเพิ่มจำนวนประชากรส่วนใหญ่มาจากการอพยพเข้าประเทศ อัตราการเกิดที่สูงขึ้นและอายุขัยที่ยาวนานขึ้น

 

ประเทศอังกฤษมีความหนาแน่นของประชากรสูงเป็นอันดับต้นๆของโลก ประมาณหนึ่งในสี่ของประชากรทั้งหมดอาศัยอยู่ในเขตตะวันออกเฉียงใต้ของอังกฤษ ซึ่งมีสภาพทางเศรษฐกิจที่ดี และส่วนใหญ่เป็นเขตเมืองหรือชานเมือง ประชากรประมาณ 7.5 ล้านคนอาศับอยู่ในกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักรมีอัตราการอ่านออกเขียนได้ของประชากรสูงถึง 99% เป็นผลมาจากการศึกษาของรัฐ ทั่วประเทศ การศึกษาภาคบังคับมีสำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 5 ถึง 16 ปี จำนวนประชากรของสหราชอาณาจักรแบ่งตามเชื้อสาย


ภาษา


ประเทศอังกฤษไม่มีภาษาราชการ ภาษาที่พูดกันเป็นส่วนใหญ่คือภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นภาษากลุ่มเจอร์มานิกตะวันตก พัฒนามาจากภาษาอังกฤษโบราณ ภาษาท้องถิ่นอื่นๆ ได้แก่ภาษาสกอต และภาษากลุ่มแกลิกและบริทโทนิก (เป็นกลุ่มภาษาย่อยของกลุ่มภาษาเคลติก) เช่นภาษาเวลส์ ภาษาคอร์นิช ภาษาไอริช และภาษาสกอตติชแกลิก ภาษาอังกฤษได้แพร่กระจายไปทั่วโลก จากอิทธิพลของจักรวรรดิบริเตนในอดีตและสหรัฐอเมริกาในปัจจุบัน ทำให้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองที่สอนกันมากที่สุดในโลก ภาษากลุ่มเคลติกของ ประเทศอังกฤษก็มีพูดกันในกลุ่มเล็กๆหลายแห่งในโลก เช่น ภาษาแกลิกในประเทศแคนาดา และภาษาเวลส์ในประเทศอาร์เจนตินา

ศาสนา


คนส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์ ศาสนาอื่นได้แก่ ศาสนาพุทธ ฮินดู ยิว อิสลามและซิกข์ ประมาณ 23% ของประชากรไม่มีการยึดถือ ศาสนาใดๆเป็นหลัก ศาสนาหลักคือ ศาสนาคริสต์ แต่อย่างไรก็ตาม สหราชอาณาจักรยังมีสังคมที่มีความหลากหลายทางด้านความเชื่อ เป็นสังคมที่เปิดกว้างและยอมรับศาสนาอื่นๆ ด้วย ในปัจจุบัน มีชาวอังกฤษหันมานับถือพระพุทธศาสนาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากรายงานในวารสารทางสายกลางของพุทธสมาคมลอนดอน ระบุว่า มีสมาคมองค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาจัดตั้งอยู่ในประเทศอังกฤษประมาณ 30 แห่ง เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนาในหมู่ชนชาวอังกฤษ จึงกล่าวได้ว่า พระพุทธศาสนาในประเทศอังกฤษค่อยๆ เป็นปึกแผ่นมั่นคงและก้าวหน้าไปโดยลำดับ โดยมีการก่อสร้าง วัดพุทธปทีป ในกรุงลอนดอน

*ข้อมูลและราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาสอบถามเพื่อความถูกต้องอีกครั้ง

AdWise Education ศูนย์แนะแนวเรียนต่อต่างประเทศ

ให้คำปรึกษาฟรี
โทร. 086-400-4350, 086-367-4297

E-Mail : study@adwise-education.com

Line : @adwise

AdWise Education | All Rights Reserved

Updated: June 2024

© Copyright
bottom of page