9 ข้อดี เมื่อไปเรียนออสเตรเลีย
Updated: Jan 20, 2022
ก่อนตัดสินใจไปเรียนต่อต่างประเทศ หลายคนคงมีคำถามเกิดขึ้นในใจว่าจะเลือกไปเรียนที่ไหนดี และชื่อ “ออสเตรเลีย” ก็มักจะเป็นประเทศหนึ่งที่อยู่ในตัวเลือกของหลายๆคน วันนี้เราจึงได้รวบรวมข้อดีของการมาเรียนที่นี่ เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจของทุกคนค่ะ
1. ไม่ใกล้ไม่ไกล ไปมาสะดวก
ประเทศออสเตรเลียอยู่ห่างจากประเทศไทยด้วยการบินประมาณ 7-9 ชั่วโมง มีไฟลท์จากสายการบินทั้ง full service และ low course มารับส่งกันแบบสะดวกสบาย สามารถเลือกออกช่วงดึก นอนบนเครื่องให้เต็มอิ่ม ตื่นมาก็ G'Day Mate! ที่ออสเตรเลียได้แล้ว คิดถึงบ้านก็กลับได้ (ตั๋วโปรออสเตรเลียมีอยู่ตลอด) หรือถ้าครอบครัวอยากมาดูความเป็นอยู่ของลูกหลานก็สามารถมาได้บ่อยเท่าที่ใจคิดถึงเลย และสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่อายุเยอะ ไม่เคยเดินทางไกลลำพัง สามารถแจ้งสายการบินตั้งแต่ตอนจองตั๋วว่าขอรับบริการแบบ Meet and Assist (first time travelling หรือ non English speaking) ก็เดินทางแบบอุ่นใจได้
2. ปรับเวลาง่าย
เวลาที่ออสเตรเลีย เร็วกว่าเวลาในประเทศไทยประมาณ 1-4 ชั่วโมงแตกต่างกันไป เช่น เวลาใกล้ไทยที่สุดคือเร็วกว่า 1 ชม. คือ Perth รองลงมาคือเร็วกกว่า 2 ชม. เช่น Darwin, Adelaide และ 3 ชม. เช่น Sydney, Canberra, Melbourne และ Brisbane เป็นต้น ซึ่งไม่ถือว่าห่างกันมากเกินกว่าที่เราจะปรับตัวได้ในระยะเวลาสั้นๆ (นอนอิ่มๆตามเวลาใหม่ของออสเตรเลียสัก 3-5 วันก็ปรับได้แล้ว) นอกจากนี้ในบางรัฐใหญ่ๆ จะมีการเปลี่ยนเวลาที่เรียกว่า Daylight Saving Time (DST) ให้เวลาเร็วขึ้น 1 ชม. ในช่วงเปลี่ยนจากฤดูหนาวเป็นฤดูร้อน ในช่วงต้นเดือนตุลาคม และปรับกลับมาเหมือนเดิมในช่วงต้นเดือนเมษายนของทุกปี
3. Multi-culture เชื้อชาติหลากหลาย
ชาวเอเชียนิยมไปเรียน ทำงาน และทำธุรกิจกันในหลายเมืองใหญ่ๆ อย่าง Sydney, Melbourne, Perth ในแต่ละเมืองจะมีย่านชุมชนของชาติต่างๆ ที่เรียกว่า China Town, Thai Town, Korean Town ชุมชนคนไทยมีชื่อเสียงในเรื่องของร้านอาหารไทยอร่อยๆ ซึ่งมีเกือบทุกเมนูที่อยากกิน นอกจากนี้ยังมีร้านขายของชำที่มีของส่งมาจากบ้านเราแทบทุกอย่าง นอกจากนี้ยังมีชาวยุโรป อย่าง ฝรั่งเศส, เยอรมัน เชค, ออสเตรียและไอแลนด์ นิยมย้ายมาเรียนและทำงานที่นี่เพราะมีหน้าร้อน อากาศดีกว่า เศรษฐกิจการจ้างงานก็มีมากกว่าในประเทศ การอยู่ร่วมกันของหลายเชื้อชาตินี้ ทำให้เราได้ฝึกฝนการปรับตัวให้เข้ากับสังคมและเป็นการฝึกภาษาได้เป็นอย่างดี
4. LGBT-friendly หลากหลายทางเพศ
ประเทศออสเตรเลียให้การยอมรับการแต่งงานระหว่างเพศเดียวกัน (Same-sex marriage) มาตั้งแต่ปี 2017 ชาว LGBT ได้รับการคุ้มครองและการปฏิบัติเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นในด้านอาชีพ ด้านสังคม และศาสนา ในทุกๆปีจะมีการจัดงานพาเรดแสดงพลังของชาว LGBTQ+ ที่เมือง Sydney เรียกว่า มาร์ดิ กราส์ (Mardi Gras) ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ หรือมีนาคมของทุกปี
5. สาขาการศึกษาหลากหลาย
ระบบการศึกษาของประเทศออสเตรเลียให้การสนับสนุนทั้งแบบมหาวิทยาลัย และแบบวิทยาลัยเทคนิคและการศึกษาต่อเนื่อง หรือ ที่เรียกว่า TAFE (Technical and Further Education) ซึ่งจะมีหลักสูตรที่เรียกว่า Vocational Education&Training (VET) ซึ่งเป็นหลักสูตรเน้นพัฒนาทักษะความสามารถ เช่น Chef, Accountant, Nurse ที่นอกจากจะได้เรียนปฏิบัติและฝึกงานอย่างจริงจังแล้ว ยังสามารถนำวุฒิและประสบการณ์ไปต่อยอดในการขอ Skilled VISA ยื่นวีซ่าขอเป็นพลเมืองถาวรของประเทศออสเตรเลียได้อีกด้วย
6. ทำงานระหว่างเรียนได้ถูกกฏหมาย
วีซ่านักเรียน (Student Visa) จะมี work permission หรือเงื่อนใขอนุญาตให้นักเรียนทำงานที่ออสเตรเลียได้อย่างถูกกฏหมาย โดยในช่วงระหว่างเรียน นักเรียนสามารถทำงานได้ 40 ชั่วโมง/2 อาทิตย์ และทำได้แบบไม่จำกัดในช่วงปิดเทอม ส่วนวีซ่าทำงาน (Work and Holiday) สามารถทำงานได้เต็มเวลา รูปแบบของงานที่นิยมทำกัน ส่วนใหญ่เป็นงาน casual ทำ/ได้เงินเป็นรายชั่วโมง หรือเป็นผลัด (Shift) ประมาณ 5-6 ชั่วโมง งานที่นักเรียนไทยทั่วไปนิยมทำกัน มีตั้งแต่งานในร้านคาเฟ่/ร้านอาหาร งานทำความสะอาดต่างๆ งานเลี้ยงเด็ก (Child care) งานฟาร์ม ที่นอกจากจะได้รายได้แล้วยังได้ประสบการณ์ในการดำเนินชีวิตด้วย
7. สวรรค์ของคนชอบเที่ยว Out Door
ทะเล/ชายหาด
ออสเตรเลียมี 4 ฤดู มีภูมิประเทศแทบทุกลักษณะ มีทั้งฝั่งทะเลและฝั่งมหาสมุทร ที่มีชายหาดที่สวยงามและมีชื่อเสียงหลายแห่งเหมาะแก่การว่ายน้ำ เล่น surf อาบแดด หรือนั่งดูพระอาทิตย์ตกดินบรรยากาศสุดโรแมนติก ที่ Bondi Beach, Byron Bay, Glenelg Beach, Burleigh Heads หรือจะออกเรือไปดูปลาวาฬ โลมา เพนกวิน ตามเกาะต่างๆ หรือจะลงดำน้ำดูปะการังในโลกใต้ทะเลยสวยๆ ที่ Great Barrier Reef แนวปะการังที่ยาวที่สุดในโลกสักครั้งในชีวิต
ภูเขา
ประเทศออสเตรเลียมีชื่อเสียงในเรื่องการท่องเที่ยวภูเขาและอุทยานแห่งชาติที่เป็นมรดกโลก อย่าง Blue Mountains, Purnululu National Park, Uluru-Kata Tjuta National Park หรือใครที่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น ปีนเขาที่ Kings Canyon Rim Walk ขับรถตะลุยทะเลทรายไปตั้งแคมป์และชมหินขนาดใหญ่ Uluru ที่สวยงาม ที่ชาวออสเตรเลียนิยมเรียกว่าเที่ยว Outback ตกกลางคืนก็สามารถ ส่องสัตว์พื้นเมือง Australian Wild Life ได้อย่างน่าตื่นใจ
หิมะ
ช่วงฤดูหนาว เราสามารถขึ้นเขาไปเล่นสกีหรือสโนว์บอร์ดได้หลายที่ เช่น Perisher Mt.,Thredbo หรือ Hotham ซึ่งเดินทางไม่ไกลจากใจกลางเมืองต่าง จะขับรถไปเองหรือนั่งรถบัสไปก็สะดวกสบาย
8. เจ็บป่วยรักษาเหมือนเจ้าบ้าน
ผู้ที่ถือวีซ่านักเรียนจะต้องทำประกันสุขภาพสำหรับนักเรียน (Health Insurance) หรือที่เรียกว่า OSHC ( Overseas Student Health Cover เดือนละ 40-50 AUD) ซึ่งสิทธิประโยชน์ในการรักษาพยาบาลนั้นเทียบเท่ากับคนออสเตรเลียทุกประการ เวลาเจ็บป่วย สามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลรัฐและเอกชนได้ทันที
9. กงสุลไทยใจดีพร้อม support
ไทยมีสถานกงสุลใหญ่ที่เมือง Sydney, Melbourne และ Brisbane ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ดูแลคนไทยอย่างใกล้ชิด ให้บริการ ทำ Passport ไทย ทำบัตรประชาชนไทย แจ้งเกิด/ตาย จดทะเบียนสมรส/หย่า ทำหนังสือรับรองต่างๆ เป็นศูนย์กลางการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร นอกจากนี้ ยังมีบริการ กงสุลสัญจร ไปตามเมืองเล็กๆอย่าง Adelaide หรือ Wollongong ให้คนไทยได้อุ่นใจอีกด้วย
ในช่วงของการระบาดของ Covid-19 ทางกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ ได้ประสานงานกับสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ประกาศ ให้ข้อมูล ออกเอกสาร เพื่ออำนวยความสะดวกให้คนไทยกลับบ้านได้อย่างปลอดภัยก่อนมีการล็อคดาวน์และปิดน่านฟ้าทั่วโลก
ประเทศออสเตรเลียยังคงมีเสน่ห์ดึงดูดให้นักเรียนและนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกมาเรียนต่อและหาประสบการณ์ใหม่ๆอยู่เสมอ น้องๆคนไหนสนใจไปเรียนต่อออสเตรเลีย ติดต่อ AdWise Team ได้ที่ Line @adwise หรือ โทร 086-400-4350 ,086-367-4297 แนะแนวและให้คำปรึกษาฟรีเหมือนเดิมค่ะ
Adventure is the best way to learn.
สงวนลิขสิทธิ์ ห้ามคัดลอก แก้ไข ดัดแปลงบทความ และ/หรือนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
All Rights Reserved.
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม :
UPDATE ออสเตรเลียเปิดประเทศ (VIC : Victoria)
UPDATE ออสเตรเลียเปิดประเทศ (NSW : New South Wales)
Comments