การตรวจสุขภาพสำหรับยื่นวีซ่านักเรียน ประเทศออสเตรเลีย
AdWise Education Admin
December 2023
การตรวจร่างกายเพื่อยื่นวีซ่านักเรียนมีความสำคัญและจำเป็นต้องทำทุกคน AdWise ขอแนะนำให้น้อง ๆ ตรวจร่างกายแต่เนิ่น ๆ ก่อนตัดสินใจชำระค่าเล่าเรียนหรือยื่นวีซ่า และก่อนจะไปรับการตรวจ จำเป็นจะต้องโทรนัดกับทางโรงพยาบาลทุกครั้ง เนื่องจากต้องนัดกับแพทย์ที่ได้รับอนุญาตในการตรวจเพื่อยื่นวีซ่าเท่านั้น
ตรวจสุขภาพ - ทำได้ 2 แบบ
-
ตรวจสุขภาพก่อนยื่นวีซ่า โดยทาง AdWise จะกรอกข้อมูลเข้าระบบเพื่อขอใบส่งตัวให้
-
ยื่นวีซ่าก่อนแล้วค่อยตรวจสุขภาพ โดยหลังจากยื่นวีซ่าจะได้ใบส่งตัวอัตโนมัติ HAP Letter
-
ต้องไปตรวจภายใน 28 วันนับตั้งแต่ได้ใบส่งตัว
-
ต้องแจ้ง ถ้าเคยเดินทางไปออสเตรเลีย ไม่ว่าจะด้วยวีซ่าใดๆ เพราะต้องกรอกข้อมูลเพื่อใบส่งตัวตรวจสุขภาพ
-
อาจมีข้อยกเว้นกรณีที่ไม่ต้องตรวจสุขภาพ เช่น เคยได้รับการตรวจสุขภาพสำหรับยื่นวีซ่านักเรียนประเทศออสเตรเลียมาแล้วไม่เกิน 1 ปี, ลงทะเบียนเรียนเพื่อขอวีซ่านักเรียนระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน, หรือประกาศยกเว้นการตรวจสุขภาพชั่วคราว กรณีนักเรียนต่อวีซ่าภายในประเทศออสเตรเลีย
-
กรณีนักเรียนที่สมัครเรียนหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับ enter a hospital or a health care facility (รวมถึง nursing homes) aged care or disability care, a trainee at a child care centre (รวมถึง preschools and creches), study or train to be, a health care worker or work within a health care facility ต้องมีการตรวจ TB screening test เพิ่มเติม
“Important changes to immigration medical examinations have come into effect on 1 July 2023. Urine tests will no longer form part of the medical examination. We will require a blood test to be undertaken instead. Applicants aged 15 years or older who have not completed their medical examinations prior to 1 July 2023 will no longer undertake a urine test. We will require them to undertake a blood test instead. We will no longer require children between the ages of 5 and 14 years old to undertake urine or blood tests unless clinically indicated.”
การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในการตรวจสุขภาพของฝ่ายตรวจคนเข้าเมือง (Immigration) เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2023 เป็นต้นไป โดยการตรวจปัสสาวะจะไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการตรวจสุขภาพอีกต่อไป แต่จะทำการตรวจเลือดแทน สำหรับผู้สมัครที่อายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่ทำการตรวจสุขภาพยังไม่เสร็จสมบูรณ์ก่อนวันที่ 1 กรกฎาคม 2023 จะไม่ทำการตรวจปัสสาวะอีกต่อไป ทางฝ่ายตรวจคนเข้าเมืองจะให้ทำการตรวจเลือดแทน และไม่กำหนดให้เด็กอายุ 5 ถึง 14 ปี ต้องทำการตรวจปัสสาวะหรือตรวจเลือดอีกต่อไป ยกเว้นแต่จะมีการระบุไว้
*จะมีการเจาะเลือด เพื่อตรวจการทำงานของไต Creatinine
ข้อมูลจาก : Australian Government Department of Home Affairs: Immigration and Citizenship
เอกสารที่จำเป็นมีดังนี้
1. บัตรประชาชน
2. พาสปอร์ตตัวจริง
3. แบบฟอร์มจากสถานทูต (HAP ID)
4. กรณีมีโรคประจำตัว หรือเคยรักษาวัณโรค ให้เตรียมหลักฐานทางการแพทย์ไปด้วย
ในการตรวจจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 2,700 – 4,000 บาท ขึ้นอยู่กับแต่ละโรงพยาบาล โดยทั่วไปใช้เวลาตรวจประมาณ 60 นาที
เมื่อตรวจเสร็จแล้ว ให้ถ่ายรูปหรือแสกนใบเสร็จตรวจร่างกายส่งกลับมาให้ทาง AdWise เพื่อเป็นหลักฐานแนบตอนยื่นวีซ่า
น้องๆคนไหนใส่แว่น หรือใส่คอนแทคเลนส์ให้ใส่ไปตรวจด้วยค่ะ
เอกสารและผลการตรวจ ทางโรงพยาบาลจะส่งผลตรวจตรงไปที่สถานทูตทางอินเตอร์เนททันที วันต่อวัน
การเตรียมตัวก่อนไปตรวจ
· ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ 6 – 8 แก้วต่อวัน และดื่มน้ำเปล่าตอนเช้าก่อนไปตรวจมาก ๆ
· ไม่ต้องอดอาหาร แต่ควรงดน้ำอัดลม ชา กาแฟ และของหวานที่หวานจัด
· งดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนตรวจสุขภาพ
· พักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6 - 8 ชั่วโมง ก่อนรับการตรวจสุขภาพ
· ไม่ควรมาตรวจขณะเจ็บป่วย ท้องเสีย หรือมีไข้มาก
· ควรสวมเสื้อผ้าที่สะดวกต่อการเจาะเลือดที่ข้อพับแขน
· หากผลเอกซ์เรย์ปอดเคยมีความผิดปกติ ให้นำแผ่นฟิล์มในอดีตมาให้ดูเปรียบเทียบด้วย
· หากมีประวัติการรักษาโรคปอด ให้นำใบรับรองการรักษา ระบุชื่อยา ขนาด ระยะเวลาที่ทานยา นำมาให้แพทย์ด้วย (เป็นภาษาอังกฤษ)
รายละเอียดการตรวจ
● Medical Examination
● Chest X-ray Examination
● Serum Creatinine and Estimated Glomerular Filtration Rate (eGFR)
· ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง วัดความดัน วัดชีพจร
· วัดสายตา ถ้ามีแว่นสายตา คอนแทกเลนส์ ควรนำหรือใส่มาด้วย
· เอกซ์เรย์ปอด กรณีตั้งครรภ์หรือสงสัยว่าตั้งครรภ์ ต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ
· เจาะเลือดเพื่อตรวจการทำงานของไต Creatinine
· รอฟังผลการตรวจ และพบแพทย์ตรวจร่างกาย
· การถามประวัติการเจ็บป่วย ในอดีต ปัจจุบัน
· การถามประวัติ การสัมผัสโรคติดต่อ เช่น วัณโรค ตับอักเสบ
· การถามประวัติ ยาที่รับประทาน และวัคซีน
· การตรวจประเมิน ร่างกาย สุขภาพ และจิตใจ
· การอธิบายผลการตรวจ และให้คำแนะนำ
หมายเหตุ:
ถ้าเคยมีประวัติเป็นโรคปอด จะได้วีซ่าหรือไม่?
· ถ้าเคยมีประวัติเป็นโรคปอดที่ไม่ใช่วัณโรค หรือโรคติดต่อร้ายแรง ก็คงไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าเคยเป็นโรควัณโรค อาจต้องใช้เวลาในการตรวจคัดกรองเพิ่มเติม หรือติดตามรักษาเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่ไปเกิดอาการเจ็บป่วย จนเป็นอุปสรรคต่อการเรียน หรือแพร่เชื้อโรคให้คนอื่นได้ แนะนำให้นำฟิล์มเอกซ์เรย์ในอดีต พร้อมประวัติการรักษามาพบแพทย์ด้วยค่ะ
รายชื่อโรงพยาบาลสำหรับตรวจร่างกาย ประกอบการวีซ่าประเทศออสเตรเลีย
กรุงเทพฯ
โรงพยาบาลกรุงเทพ (Bangkok General Hospital)
แผนก Medical and Radiology examinations
ถนน เพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310
โทรนัดหมาย : 1719 (Contact Center) หรือ +662 310 3000
โรงพยาบาลบีเอ็นเอช (BNH Hospital)
แผนก Medical and Radiology examinations
9/1 ถนนคอนแวนต์ (ซอย โรงเรียนเซนต์โยฯ) สีลม กรุงเทพ 10500
* ลงรถไฟฟ้า BTS สถานีศาลาแดง สามารถต่อรถมอเตอร์ไซต์รับจ้าง หรือต่อแท็กซี่เข้าซอย
**กรณีนำรถส่วนตัวไปสามารถเข้าซอยได้จากทางด้านถนนสีลมและถนนสาธร
หมายเหตุ
กรุณาทำนัดล่วงหน้าอย่างน้อย 2 วัน ทาง Line@BNHhospital หรือ E-mail: bnhcheckup@bnh.co.th
หรือ โทร. +662-022-2847, +662-022-0700 ต่อ 4445 – 4447 ในช่วงเวลา 13.00 – 15.00 น. เท่านั้น
แผนที่
เชียงใหม่
โรงพยาบาลเชียงใหม่ราม (Chiangmai Ram Hospital)
8 ถนน บุญเรืองฤทธิ์ ตำบล ศรีภูมิ อำเภอเมืองเชียงใหม่ เชียงใหม่ 50200
โทรนัดหมาย : +6653 920 300
ภูเก็ต
โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต (Wellness Center, Bangkok Hospital Phuket)
2/1 ถนน หงษ์หยกอุทิศ ตำบล ตลาดใหญ่ อำเภอเมืองภูเก็ต ภูเก็ต 83000
โทรนัดหมาย : +667 625 4425 ต่อ 8447– 8
อุดรธานี
โรงพยาบาลเอกอุดร (Aek Udon International Hospital)
555/5 ถนน โพศรี ตำบล หมากแข้ง อำเภอเมืองอุดรธานี อุดรธานี 41000
โทรนัดหมาย : +66 42 342 555
Related Links :